11/06/2555

สูตรขนมจีนน้ำยาหอยดอง


สูตรขนมจีนน้ำยาหอยดอง
สูตรขนมจีนน้ำยาหอยดองนั้นเป็นแกงแบบใต้โดยใช้หอยแมลงภู่ดอง ซึ่งมีรสปรี้ยวและเค็ม แต่หอยดองเมื่อถูกความร้อนเนื้อจะหด  จึงควรใส่เนื้อหอยสดเพื่อให้แกงมีเนื้อเพิ่มขึ้น  การเลือกหอยควรเลือกหอยที่ดองใหม่ๆ เพราะถ้าดองนานแล้ว เนื้อจะเหี่ยว

ส่วนผสม
กะทิ 1 1/2  ถ้วย
เนื้อหอยแมลงภู่ดอง 100 กรัม
เนื้อหอยแมลงภู่สด 50 กรัม
หน่อไม้รวกดอง  หันท่อน 1 ซม. ผ่าครึ่ง 1 หน่อ
ถั่วฝักยาวหั่นท่อน 1 นิ้ว 2 ฝัก
มะเขือพวง 1/4 ถ้วย
มะเขือเปราะผ่าสี่ 2 ลูก
เกลือสมุทร 1 1/2 ช้อนชา
ใบมะกรูดฉีก 2 ใบ
ขนมจีน 1/2 กิโลกรัม
ผักกินแกล้ม เช่น  มะเขือเปราะ แตงกวา
ถั่วงอก ยอดกระถิน ฝักกระถิน
สะตอ ลูกเนียง ฯลฯ

เครื่องแกง
พริกขี้หนูแห้งแช่น้ำจนนุ่ม 1/2 ถ้วย
เกลือสมุทร 1 ช้อนชา
ข่าแก่หั่น 1 ช้อนโต๊ะ
ตะไคร้ซอย 1 ต้น
ผิวมะกรูดหั่นละเอียด 1  ช้อนชา
พริกไทยดำเม็ด 1/4 ช้อนชา
กระเทียมไทยแกะเปลือก 1/4 ถ้วย
กระชายขูดเปลือกหั่น 1  ช้อนโต๊ะ
ขมิ้นสดหั่น 1/2  ช้อนโต๊ะ
กะปิ 1/2 ช้อนโต๊ะ


วิธีทำขนมจีนน้ำยาหอยดอง
1. ทำน้ำพริกแกง โดยโขลกเครื่องแกงทั้งหมดเข้าด้วยกันให้ละเอียด
ตักใส่ถ้วย พักไว้
2. ใส่กะทิและน้ำพริกแกงที่โขลกลงในหม้อ คนให้ละลาย ยกขึ้นตักบนไฟกลางจนเดือด
ใส่เนื้อหอยดองและเนื้อหอยสด คนให้ทั่ว ใส่หน่อไม้รวก ถั่วฝักยาว มะเขือพวง มะเขือเปราะ เคี่ยวให้ผักสุก ปรุงรสด้วยเกลือ เพื่อไม่ให้คาว แล้วใส่ใบมะกรูด ชิมรสให้เค็มเผ็ดนำ มีรสเปรี้ยวอ่อนๆ จากหอยดอง แล้วปิดไฟ
3. จัดขนมจีนใส่จาน ราดน้ำยาหอยดอง หรือตักใส่ถ้วยแยกต่างหาก  แล้วเสิร์ฟพร้อมผักแกล้ม

10/17/2555

ขนมจีนครามแดง


ขนมจีนครามแดง

ขนมจีนครามแดง เป็นขนมจีนชาววัง ที่ปัจจุบันไม่ค่อยเห็นกัน เป็นการใช้เนื้อไก่ต้มฉีก เนื้อกุ้งย่างโรยหน้า มีแตงกวาฝานบาง ขิงซอยเป็นเส้น และใบสะระแหน่โรยหน้า แล้วราดด้วยน้ำยำปรุงรส ก่อนรับประทานให้คลุกเคล้าให้เข้ากัน

ส่วนผสมและเครื่องปรุง
1. เส้นขนมจีน  1/2 กิโลกรัม
2. อกไก่ 1 อก
3. กุ้งนาง 4 ตัว
4. แตงกวาอ่อน 8 ลูก
(การสังเกตแตงกวาอ่อน ลูกจะเล็ก เปลือกสีเขียวอ่อน)
5. ขิงอ่อน 1 แง่ง
6. สะระแหน่เด็ดเป็นใบ 1/2 ถ้วย

เครื่องปรุงน้ำยำ
1. น้ำพริกเผา 3 ช้อนโต๊ะ
2. มันกุ้งย่าง 2 ช้อนโต๊ะ
3. น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
4. น้ำตาลทราย 2 ช้อนโต๊ะ
5. น้ำมะนาว 2 ช้อนโต๊ะ
ทำน้ำยำ โดยผสมเครื่องปรุงน้ำยำเข้าด้วยกัน

วิธีทำขนมจีนครามแดง
1. ล้างอกไก่ ดึงหนังออก ต้มจนสุก แล้วฉีกเป็นฝอย เตรียมไว้
2. ล้างกุ้ง ย่างไฟ จนสุก เด็ดหัว รีดมันกุ้งใส่ถ้วยไว้ แกะเปลือกกุ้ง ฉีกเนื้อกุ้งเป็นชิ้นเล็กๆ
3. ล้างแตงกวาและขิง ปอกเปลือกขิง ซอยเป็นเส้น แช่น้ำไว้สักครู่ ก็ยกขึ้นพักไว้ให้สะเด็ดน้ำ ส่วนแตงกวาผ่าครึ่งตามยาว หั่นเป็นชิ้นบาง
4. นึ่งขนมจีนให้ร้อน เมื่อจะรับประทาน ก็หั่นเป็นท่อนยาวประมาณ 2 นิ้ว จัดใส่จาน วางแตงกวา โรยไก่ฝอย เนื้อกุ้งย่าง ขิง สะระแหน่ ราดด้วยน้ำปรุง

9/14/2555

ขนมจีนแกงฟักลูกชิ้นปลากราย


ขนมจีนแกงฟักลูกชิ้นปลากราย
ส่วนผสมและเครื่องปรุง
1.หัวกะทิ 1 ถ้วย
2.หางกะทิ 4 ถ้วย
3.ฟักเขียวหั่นชิ้นหนาขนาด 1/2 นิ้ว 300 กรัม
4.เกลือสมุทร 2 ช้อนชา
5.น้ำปลา 2  1/2 ช้อนโต๊ะ
6.น้ำตาลปี๊บ 1  1/2 ช้อนชา
7.ใบมะกรูดฉีก 2 ใบ โหระพาเด็ดใบ 1/2 ถ้วย
8.พริกชี้ฟ้าสีเขียวและแดงหั่นแฉลบ 2 เม็ด ขนมจีน 1 กิโลกรัม
9.ยอดโหระพาสำหรับตกแต่ง

ส่วนผสมเครื่องแกง
1.พริกขี้หนูสวนสีเขียว 3 ช้อนโต๊ะ
2.เกลือสมุทร 1/2 ช้อนชา
3.ข่าแก่หันละเอียด 1 ช้อนโต๊ะ
4.ตะไคร้ซอย 2 ต้น
5.ผิวมะกรูดหั่ละเอียด 1/2 ช้อนชา
6.กระเทียมไทยแกะเปลือก 2 ช้อนโต๊ะ
7. กะปิ 1 1/2 ช้อนชา

ส่วนผสมลูกชิ้นปลากราย
1.เนื้อปลากรายขูด  200 กรัม
2.น้ำเกลือ  โดยใช้ เกลือสมุทร 1/4 ช้อนชา ละลายกับน้ำ 1/2 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำขนมจีนแกงฟักลูกชิ้นปลากราย
1. ทำน้ำพริกแกงโดยโขลกเครื่องแกงทั้งหมดรวมกันให้ละเอียด ตักใส่ถ้วย พักไว้
2. ทำลูกชิ้นปลากรายโดยโขลกเนื้อปลากราย ค่อยๆใส่น้ำเกลือ โขลกนานประมาณ 20 นาทีหรือจนเนื้อปลากรายเหนียวเด้ง ตักใส่ถุง นำไปแช่ตู้เย็นใต้ช่องแช่แข็งให้เย็นจัด
3. เคี่ยวหัวกะทิในกระทะด้วยไฟกลางจนเดือด ใส่น้ำพริกแกงที่โขลก ผัดให้หอมและแตกมันเล็กน้อย ใส่หางกะทิ เคี่ยวพอเดือด ลดเป็นไฟอ่อน นำเนื้อปลากรายออกจากตู้เย็น
ใช้กรรไกรตัดก้นถุงด้านหนึ่งเป็นรูกว้างขนาด 1/2 นิ้ว บีบให้เนื้อปลาออกมาเป็นก้อนพอคำใช้ช้อนตัก ใส่ลงต้มในกะทิให้สุกลอย ใส่ฟัก เร่งเป็นไฟกลาง เคี่ยวพอสุก ปรุงรสด้วย
เกลือ น้ำปลา และน้ำตาล ชิมรสให้เค็มนำ หวานกะทิ น้ำแกงไม่ข้นและกะทิไม่แตกมันใส่ใบมะกรูด โหระพา และพริกชี้ฟ้า ปิดไฟ
4. จัดขนมจีนใส่จาน ตักแกงฟักลูกชิ้นปลากรายราด ตกแต่งด้วยยอดโหระพา หรือตักแกงใส่ถ้วยแยกต่างหาก เสิร์ฟกับผักสดตามชอบ



8/22/2555

สูตรขนมจีนน้ำพริก


สูตรขนมจีนสูตรนี้ น้ำยาที่รับประทานจะไม่เผ็ดออกหวานด้วยซ้้ำ เพราะใช้ถั่วเป็นส่วนผสมด้วย เหมาะสำหรับคนที่ไม่ชอบทานเผ็ดเพื่อความสะดวกจะใช้กะทิกล่อง แต่ถ้าใครมีเวลาจะคั้นกะทิเองก็ไม่ผิด กติกาอย่างใด

ส่วนผสม
1.เส้นขนมจีน (สำหรับ 5 คน) 10 จับ
2.กุ้งนางเอาแต่เนื้อกุ้งสับละเอียด 300 กรัม
3.ถั่วเขียวลอกเปลือกคั่วบด 1 ถ้วย
4.กะทิกล่อง 2 กล่อง
5.น้ำตาลปี๊บ  2 ช้อนโต๊ะ
6.น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
7.น้ำมันพืช 3 ช้อนโต๊ะ
8.เกลือป่น 1 ช้อนชา
9.หัวปลีหั่นบางๆ 1 ถ้วย
10.พริกป่น 1 ช้อนโต๊ะ

ส่วนผสมน้ำพริก
1.พริกขี้หนูแห้งคั่ว 10 เม็ด
2.หอมแดงเผา 5 หัว
3.กระเทียมเผา 2 หัว
4.ข่าเผา 3 แว่น
2.รากผักชีหั่นคั่ว 1 ช้อนโต๊ะ
จัดการโขลกน้ำพริกดังกล่าวข้างต้นให้ละเอียดก่อนแล้วเตรียมปรุงผสมต่อไป

วิธีทำขนมจีนน้ำพริก
1. เอาน้ำกะทิสำเร็จรูป 1/2 กล่องใส่ไปในหม้อต้ม เอาแต่หัวกะทิที่เห็นเป็นสีขาวเหนียวข้นตอนบนของกล่องกะทิเคี่ยวกะทิจนแตกมันเล็กน้อย
2. เอากุ้งสับลงไปต้มด้วย เอาน้ำพริกแดงที่โขลกลงไปปรุงผัดให้หอม
3. ใส่ถั่วเขียวบดลงไปอีกใส่น้ำกะทิลงไปจนหมด หากน้อยเติมน้ำสะอาดนิดหน่อย
4. ปรุงรสเค็ม หวานให้พอดี
5. เจียวกระเทียมกับน้ำมันพืชให้เหลืองหอม ใส่ลงไปในหม้อแกง แล้วเอาพริกขี้หนูคั่วป่นลงเจียวบ้าง ใส่ลงไปในหม้อน้ำพริกอีกอย่างหนึง เวลารับประทานเอามาราดบนเสันขนมจีน รับประทานกับผักต่างๆ เช่น ผักบุ้งลวกหั่นเล็กๆ หัวปลีซอยบางๆ



6/25/2555

ขนมจีนแกงกะหรี่หมูแบบเยาวราช


ขนมจีนแกงกะหรี่หมูแบบเยาวราช ประยุกต์ใช้แกงกะหมี่หมูราดบนขนมจีน น้ำแกงขนมจีนจะข้น ราดแล้วจะเกาะติดเส้นขนมจีน ผงกะหรี่ที่ใช้ควรเลือกอย่างดีเพื่อให้หอม สูตรขนมจีนนี้เหมาะสำหรับรับประทาน 4 คน ถ้าคนน้อยกว่าหรือมากกว่านี้ก็สามารถลดอัตราส่วนเครื่องปรุงลงได้

ส่วนผสมและเครื่องปรุง
เนื้อหมูส่วนสะโพกหั่นชิ้นบาง 300 กรัม
แป้งมัน 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำ 1/4 ถ้วย
หัวกะทิ 1 ถ้วย
ผงกะหรี่ 2 ช้อนโต๊ะ
กะทิ 1 ถ้วย
หางกะทิ 3 ถ้วย
ฟักหั่นชิ้นหนาขนาด 1 นิ้ว 200 กรัม
เกลือสมุทร 1 ช้อนชา
น้ำปลา 21/2 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลทราย 2 ช้อนชา
แป้งข้าวเจ้า 1 ช้อนโต๊ะ
ขนมจีน 1 กิโลกรัม
แตงกวาและกุนเชียงต้มพอสุกแล้วทอดหั่นบางสำหรับกินแนม
เครื่องแกงขนมจีน
พริกแห้งเม็ดใหญ่แกะเมล็ดออก แช่น้ำพอนุ่ม 8 เม็ด
เกลือสมุทร 1 ช้อนชา
กระเทียมไทยแกะเปลือก 3 ช้อนโต๊ะ
ข่าแก่หันละเอียด 1 ช้อนชา
 ตะไคร้ซอย 1 ต้น
ผิวมะกรูดหั่นละเอียด 1 ช้อนชา
หอมแดงหั่น 1/4 ถ้วย
กะปิ 1 1/2 ช้อนชา

วิธีทำขนมจีนแกงกะหรี่หมูแบบเยาวราช
1. ทำน้ำพริกแกงโดยโขลกเครื่องแกงทั้งหมดเข้าด้วยกันให้ละเอียด ตักใส่ถ้วย พักไว้
2. เคล้าเนื้อหมูกับแป้งมันและน้ำเข้าด้วยกันในถ้วย นำเข้าแช่ในตู้เย็นช่องธรรมดานาน 30 นาที
3. เคี่ยวหัวกะทิในกระทะด้วยไฟกลางจนเดือดและแตกมัน ใส่น้ำพริกแกงทีโขลก ผัดพอหอม ใส่ผงกะหรี่ ผัดพอทั่ว ปิดไฟ ตักใฟหม้อ ใส่กะทิ คนให้ทั่ว ยกขึ้นตั้งบนไฟกลางต้มจนเดือด ใส่เนื้อหมูหมัก คนพอทั่ว ใส่หางกะทิ ต้มจนสุก ใส่ฟัก เคี่ยวจนฟักสุก ปรุงรสต้วยเกลือ น้ำปลา และน้ำตาล ชิมรสให้เค็มกลมกล่อม ละลายแป้งข้าวเจ้ากับน้ำเล็กน้อยใส่ คนพอสุกข้น ปิดไฟ
4. จัดขนมจีนใส่จาน ตักแกงกะหรี่หมูราด หรือตักแกงใส่ถ้วยแยกต่างหาก เสิร์ฟกับแตงกวาและกุนเชียงทอด
ขนมจีนแกงกะหรี่หมูแบบเยาวราช




6/16/2555

ขนมจีนสูตรน้ำยาแกงเผ็ดปลาช่อน

ขนมจีนน้ำยาสูตรนี้สำหรับ 2 คนรับประทาน ถ้าจะรับประทานมากกว่านี้ก็ให้เพิ่มส่วนผสมขึ้นได้ ใช้ปลาช่อนแทนเนื้อไก่ ซึ่งเราก็ทราบดีว่า เนื้อปลานั้นเป็นแหล่งโปรตีนที่ดีเยี่ยม วิธีการทำและการเตรียมเครื่องปรุงก็ไม่ยุ่งยากอะไร เรามาดูกันวิธีการทำขนมจีนสูตรนี้ทำอย่างไรกันบ้าง

ส่วนผสมและเครื่องปรุงสำหรับขนมจีนสูตรน้ำยาแกงเผ็ดปลาช่อน
1.กะทิ  2    ถ้วย
2.ปลาช่อนหั่นแว่นหนา 1 ซม.  2 ขีด ล้างให้สะอาดด้วยการเคล้าเกลือหรือล้างด้วยปูนขาวจนหมดเมือก
3.หัวกะทิ 1/2 ถ้วย
4.น้ำปลาดี  1 ช้อนโต๊ะ
5.เกลือสมุทร 1/2 ช้อนชา
6.น้ำตาลปี๊บ 1/4 ช้อนชา
7.ใบมะกรูดฉีก 4 ใบ ขนมจีน 1/2 กิโลกรัม
8.ยอดโหระพา
ส่วนผสมเครื่องแกง
1.พริกแห้งเม็ดใหญ่แกะเมล็ดออกแช่น้ำจนนุ่ม 5เม็ด
2.พริกขี้หนูแห้งแช่น้ำจนนุ่ม 5 เม็ด
3.เกลือสมุทร 1/2 ช้อนชา
4.ข่าแก่หั่น 1/2 ช้อนโต๊ะ
5.ตะไคร้ซอย 1 ต้น ผิวมะกรูด 1/2 ช้อนชา
6.กระเทียมแกะเปลือก 1 ช้อนโต๊ะ
7.กระชายขูดเปลือกหั่น 1 ช้อนโต๊ะ
8.กะปิ 1 ช้อนชา

วิธีทำขนมจีนสูตรน้ำยาแกงเผ็ดปลาช่อน
1. ทำน้ำพริกแกงโดยโขลกเครื่องแกงทั้งหมดเข้าด้วยกันให้ละเอียด ตักใส่ถ้วย พักไว้
2. เคี่ยวกะทิ 1 ถ้วยในหม้อด้วยไฟกลางจนเดือด ใส่เนื้อปลา ปิดฝา เคี่ยวจนปลาสุก ปิดไฟ
3. เคี่ยวหัวกะทิในกระทะด้วยไฟกลางจนเดือด ใส่น้ำพริกแกงที่โขลกลงผัดจนหอมและแตกมัน ใส่เนื้อปลารวมทั้งกะทิที่เคี่ยว และกะทิที่เหลือ ผัดให้ทั่ว เคี่ยวจนน้ำแกงเดือดปรุงรสด้วยน้ำปลา เกลือ และน้ำตาล ใส่ใบมะกรูด ชิมรสให้เค็มและเผ็ด
4. จัดขนมจีนใส่จาน ตักแกงเผ็ดราด ตกแต่งด้วยยอดโหระพา หรือตักแกงใส่ถ้วยแยกต่างหาก เสิร์ฟกับผักสดตามชอบ

ขนมจีนสูตรน้ำยาแกงเผ็ดปลาช่อน

5/09/2555

สูตรน้ำยาขนมจีนแกงเป็ด


สูตรน้ำยาขนมจีนแกงเป็ดสูตรนี้ สำหรับ 3 คนรับประทาน และเนื้อเป็ดย่างแล้ว ไม่ควนสุกมาก เพราะเวลานำมาแกง เครื่องแกงจะไม่เข้าเนื้อ การย่างทำให้เนื้อเป็ดสีสวย ช่วยไล่น้ำมันออกไป เวลาแกงจะได้ไม่เลี่ยนจนเกินไป

ส่วนผสมสูตรน้ำยาขนมจีนแกงเป็ด
สะโพกเป็ด ชิ้นละ 300 กรัม  1 ชิ้น
หัวกะทิ 1  ถ้วย
หางกะทิ 2 ถ้วย
เลือดไก่หั่นชิ้นพอคำลวก 100 กรัม
มะเขือเปราะผ่าสี่ 3 ลูก
น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
เกลือสมุทร  1/2 ช้อนชา
น้ำตาลปี๊บ  1/2 ช้อนชา
โหระพาเด็ดใบ 1/2 ถ้วย
พริกฟ้าหั่นแฉลบ 2 เม็ด
ขนมจีน ½  กิโลกรัม
ผักมี ถั่วงอกใบแมงลัก หัวปลี
แตงกวา ถั่วฝักยาว
ก้านผักบุ้งไทยหั่นบางลวก ฯลฯ

เครื่องแกงสำหรับสูตรน้ำยาขนมจีนแกงเป็ด (ปริมาณ ½ ถ้วย)
พริกกะเหรี่ยงเขียว 20 เม็ด
พริกขี้หนูเขียว 40 เม็ด
เกลือสมุทร 1/2 ช้อนชา
ข่าแก่หั่น 1/2 ช้อนโต๊ะ
ตะไคร้ซอย 1 ต้น
ผิวมะกรูดหั่นละเอียด 1 ช้อนชา
กระเทียมไทยแกะเปลือก 1/4 ถ้วย
หอมแดงหั่น 2 หัว
ลูกผักชีคั่ว 1/4 ช้อนชา
ยี่หร่าคั่ว 1/4 ช้อนชา
รากผักชีหั่น ½  ช้อนโต๊ะ
กะปิ ½  ช้อนโต๊ะ

วิธีทำสูตรน้ำยาขนมจีนแกงเป็ด
1. ทำน้ำพริกแกงโดยโขลกเครื่องแกงทั้งหมดเข้าด้วยกันให้ละเอียด ตักใส่ถ้วย พักไว้
2. นำเป็ดไปอบหรือย่างในกระทะด้วยไฟกลางค่อนข้างแรงจนเนื้อด้านนอกสุกเหลืองเลาะกระดูกออก สับเนื้อเป็ดเป็นชิ้นพอคำ ใส่จาน พักไว้
3. เคี่ยวหัวกะทิ ¼ ถ้วยกับน้ำพริกแกงที่โขลกในกระทะด้วยไฟกลางจนแตกมัน ใส่หางกะทิ1 ถ้วย จัดให้ทั่วและเคี่ยวจนแห้งเล็กน้อย ใส่หางกะทิอีก 1/2 ถ้วย จัดให้ทั่วและเดือดใส่เนื้อเป็ดย่าง ผัดให้ทั่ว เคี่ยวจนเดือด ใส่เลือดไก่และหางกะทิที่เหลือ พอเดือดจัดใส่มะเขือเปราะ พอสุก ปรุงรสด้วยน้ำปลา เกลือ และน้ำตาล ชิมรสให้เค็มเผ็ดนำ หวานเล็กน้อย ใส่หัวกะทิที่เหลือ ใบโหระพา และพริกชี้ฟ้า ปิดไฟ
4. จัดขนมจีนใส่จาน ตักแกงเป็ดราด หรือตักแกงใส่ถ้วยแยกต่างหาก เสิร์ฟกับผัก



4/07/2555

ขนมจีนแกงหมู


ขนมจีนแกงหมูสูตรนี้ เป็นแกงเขียวหวานที่ไม่ข้น ไม่แตกมัน รสเผ็ดกลางๆ ใช้เนื้อหมูส่วนสันนอกหรือเนื้อหมูส่วนสะโพก หั่นตามขวาง
แต่ถ้าต้องการความนุ่มเป็นพิเศษ ก็เลือกส่วนสันในได้

ส่วนผสมของขนมจีนแกงหมู
หัวกะทิ 3/4 ถ้วย
หางกะทิ 3 ถ้วย
เนื้อหมูส่วนสันนอกหั่นชิ้นบาง 300 กรัม
มะเขือเปราะผ่าสี่ 4 ลูก
เกลือสมุทร 1/2 ช้อนชา
น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลปี๊บ 1/2 ช้อนชา
โหระพาเด็ดใบ 1/2 ถ้วย
พริกชี้ฟ้าสีเขียวและแดงหั่นแฉลบ 2 เม็ด
ขนมจีน 1 กิโลกรัม
ผักมี ถั่วงอก ก้านผักบุ้งไทยหั่นบางลวก
ใบแมงลัก ผักกาดดอง ฯลฯ

สูตรเครื่องแกงขนมจีน ปริมาณ 3/4 ถ้วย
พริกชี้ฟ้าสีเขียว 4 เม็ด
พริกขี้หนูสวนสีเขียว 3 ช้อนโต๊ะ
เกลือสมุทร 1 1/2 ช้อนชา
ข่าแก่หันละเอียด 1 ช้อนโต๊ะ
ตะไคร้ซอย 2 ต้น
ผิวมะกรูดหั่นละเอียด 1 ช้อนชา
พริกไทยขาวเม็ด 1 ซ้อนชา
รากผักชี หั่น 1 ช้อนโต๊ะ
กระเทียมไทยแกะเปลือก 1/4 ถ้วย
หอมแดงหั่น 3 หัว
กะปิ 1 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำขนมจีนแกงหมู
1. ทำน้ำพริกแกงเขียวหวานโดยโขลกเครื่องแกงทั้งหมดเข้าด้วยกันให้ละเอียด ตักใส่ถ้วย
พักไว้
2. เคี่ยวหัวกะทิ 1/2 ด้วยในกระทะด้วยไฟกลางจนแตกมัน ใส่น้ำพริกแกงเขียวหวานที่โขลก
ลงผัดพอหอม ใส่หางกะทิ 1 ถ้วย ผัดให้ทั่วและกะทิแห้งเล็กน้อย ใส่เนื้อหมู ผัดพอสุก
ใส่หางกะทิที่เหลือ เคี่ยวให้น้ำแกงเดือด ใส่มะเขือเปราะ พอมะเขือสุก ปรุงรสด้วย
เกลือ น้ำปลา และน้ำตาล ชิมรสให้เค็มนำ หวานเล็กน้อย ใส่หัวกะทิที่เหลือ พอเดือด
อีกครั้ง ใส่ใบโหระพาและพริกชี้ฟ้า ปิดไฟ
3. จัดขนมจีนใส่จาน ตักแกงหมูราด หรือตักแกงใส่ถ้วยแยกต่างหาก เสิร์ฟกับผักสดหรือผักลวกตามชอบ

3/21/2555

สูตรน้ำยาหมี่กะทิ

สูตรน้ำยาหมี่กะทิ
ขนมจีนวันนี้ขอนำเสนอสูตรน้ำยาหมี่กะทิ ที่ให้รสชาติหวานมันกะทิ รสเค็มจากเต้าเจี้ยว หอมกลิ่นพริกแกง และมีสีสรรที่สวยงาม

ส่วนผสมและเครื่องปรุงสูตรน้ำยาหมี่กะทิ
เนื้อหมูสับ 200 กรัม
เต้าเจี้ยวขาว 3 ช้อนโต๊ะ
หางกะทิ 2 ถ้วย
หัวกะทิ 1 ถ้วย
น้ำพริกแกงเผ็ด 3 ช้อนโด๊ะ
น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำดตาทราย 2 ½ ช้อนโต๊ะ
ไข่ไก่ตีพอเข้ากัน 1 ฟอง
ก๋วยเดี๋ยวเส้นเล็ก 500 กรัม
มะนาวหั่นเสี้ยว 1 ลูก
น้ำมันกระเทียมเจียวเล็กน้อยสำหรับคลุกเส้น
ผักสดสำหรับกินแนม เช่น หัวปลี ถั่วงอก ใบบัวบก

วิธีทำสูตรน้ำยาหมี่กะทิ
1.โขลกหมูสับกับเต้าเจี้ยวเข้าด้วยกันพอหยาบตักใส่ถ้วย พักไว้
2.ต้มหางกะทิในหม้อด้วยไฟกลาง พอเริ่มเดือดใส่หมูที่โขลกไว้ คนให้เนื้อหมูสุกและกระจายไม่รวมกันเป็นก้อน ปิดไฟ ตักใส่ถ้วย
3.เคี่ยวหัวกะทิในกระทะด้วยไฟกลางให้แตกมันเล็กน้อย ใส่น้ำพริกแกงลงผัดจนมีกลิ่นหอม ใส่เนื้อหมูที่ต้ม ผัดยีพอทั่ว จึงใส่หางกะทิที่ต้มหมู
ผัดให้เข้ากัน ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำตาล คนพอทั่ว ใส่ไข่ไก่ ค่อยๆ คน ให้กระจายตัว พอสุก ปิดไฟ
4.ลวกเส้นก๋วยเตี๋ยวในหม้อน้ำเดือดด้วยไฟแรง จนสุกนุ่ม ใส่ลงในชาม ใส่น้ำมันกระเทียมเจียวเล็กน้อย คลุกให้ทั่วเพื่อไม่ให้เส้นติดกัน ตักกะทิที่ผัดใส่ เสิร์ฟกับมะนาว และผักสด