11/23/2553

ขนมจีนซาวน้ำ



ขนมจีนซาวน้ำ เป็นภูมิปัญญาไทยที่ใช้อาหารดับความร้อนของอากาศ ขนมจีนซาวน้ำนิยมทำกินช่วงหน้าร้อน เพราะรสชาติที่หวานหอม เย็นชื่นใจ ความอร่อยอยู่ที่ กะทิคั้นสดๆ แจงลอนต้องทำมาจากเนื้อปลากรายที่สดเหนียว และสับปะรดต้องเปรี้ยวอมหวานฉ่ำน้ำ

ส่วนผสม
เส้นขนมจีน 1 กิโลกรัม
สับปะรดหั่นชิ้นเล็ก 1 ถ้วย
ขิงแก่ซอยฝอย 1 ถ้วย
กุ้งแห้งเนื้อโขลก 1 ถ้วย
ถัวลิสงคั่วบด 1/2 ถ้วย
กระเทียมกลีบใหญ่ซอย 1/2 ถ้วย
พริกขี้หนูซอย 1/4 ถ้วย
ผักชีเด็ดใบ 1 ถ้วย
มะนาวหั่นชิ้น 4 ลูก
พริกป่น น้ำปลา และน้ำตาลทรายสำหรับปรุงรส
น้ำตาลปี๊บเคี่ยวข้นเหนียว 1 ถ้วย

แจงลอน
เนื้อปลากรายขูด ½ กก.
กระเทียมไทยแกะเปลือก 1 ช้อนโต๊ะ
พริกไทยขาวเม็ด 1/2 ช้อนชา
น้ำเกลือ(เกลือ 1/2 ช้อนชา + น้ำ 1 ช้อนโต๊ะ)
หางกะทิ 4 ถ้วย

หัวกะทิ สำหรับราด
ส่วนผสม
หัวกะทิ 3 ถ้วย
กระเทียมสับ 1 ช้อนชา
เกลือสมุทร 1 ช้อนชา

พริกน้ำปลา (ประกอบด้วย)
-พริกขี้หนูซอย 1 ช้อนโต๊ะ
-กระเทียมซอย 2 ช้อนโต๊ะ
-น้ำปลา 1/4 ถ้วย
-น้ำมะนาว 1 ช้อนโต๊ะ


วิธีทำ
1. เริ่มจาก ทำแจงลอนก่อน โดยโขลกกระเทียมและพริกไทยเข้าด้วยกันให้ละเอียด ใส่เนื้อปลากราย ค่อยๆใส่น้ำเกลือทีละน้อย โขลกต่ออีก 20 นาที หรือจนเนื้อปลากรายเหนียวเด้ง ตักใส่ถุง นำไปแช่ตู้เย็นใต้ช่องแช่แข็งจนเย็นจัด

2. จากนั้นใส่หางกะทิลงในหม้อตั้งบนไฟกลางค่อนข้างอ่อน เคี่ยวจนเดือด นำเนื้อปลากรายออกจากตู้เย็น ใช้กรรไกรตัดก้นถุงด้านหนึ่งให้กว้างประมาณ 1/2 นิ้ว บีบเนื้อปลากรายออกมาแล้วใช้ช้อนตักให้เป็นก้อนกลมๆ หรือบีบแล้วปั้นเป็นก้อนกลมรี ใส่ลงในหม้อกะทิ ทำจนหมด ต้มจนลูกชิ้นสุกลอย ปิดไฟ

3. ทำหัวกะทิเคี่ยวสำหรับราดโดยเคียวหัวกะทิในหม้อด้วยไฟกลาง หมั่นคนจนเดือด
ใส่เกลือและกระเทียม เคี่ยวจนเดือด แล้วปิดไฟ

4. จัดเส้นขนมจีนใส่จาน วางเครื่องเคียงทั้งหมดข้างๆ ตักน้ำตาลเคี่ยวราด ราดหัวกะทิอีกที
ตักแจงลอนใส่ ก่อนรับประทานบีบมะนาว เสิร์ฟกับพริกน้ำปลาและเครื่องปรุงรสอื่นๆ

11/05/2553

ขนมจีนแกงไตปลากะทิ

ขนมจีนแกงไตปลากะทิ

แกงไตปลาใส่กะทิ นิยมกินกันมากทางจังหวัดภาคใต้ น้ำแกงข้นด้วยเนี้อปลาทะเล มีสีออกเหลืองนวล ไม่นิยมใส่ผัก ใช้ไตปลาดองที่ทำจากปลาทู หรือปลากระบอก ปลากะพง จะอร่อย เลือกไตปลาที่มีสีคล้ำออกแดง น้ำยาขนมจีนแกงไตปลากะทิจะมีกลิ่นหอมอร่อย

ส่วนผสม
ขนมจีน 1 กิโลกรัม
ไตปลา 1/2 ถ้วย
ปลาโอ 1 ตัว ประมาณ 6oo กรัม
้น้ำเปล่า 3 ถ้วย
น้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนชา
กะทิ 2 ถ้วย
ส้มแขก 2 ชิ้น
ใบมะกรูดฉีก 4 ใบ
พริกชี้ฟ้าสีเขียวและแดหั่นแฉลบ 6 เม็ด



ส่วนผสมเครื่องแกง
พริกขี้หนูแห้งแช่น้ำจนนุ่ม 50 เม็ด
เกลือสมุทร 1 ช้อนชา
พริกไทยดำเม็ด 1 ช้อนชา
ข่าแก่หั่นละเอียด 1 ช้อนโต๊ะ
ตะไคร้ซอย 3 ต้น
ผิวมะกรูดหั่นละเอียด 1 ช้อนชา
กระเทียมไทยแกะเปลือก 3 ช้อนโต๊ะ
ขมิ้นสดหั่น 1 1/2 ช้อนโต๊ะ
หอมแดงหั่น 1/4 ถ้วย
กะปิ 1 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ
1. มาเตรียมเครื่อแกงน้ำยากันก่อนโดย นำน้ำพริกแกงโดยโขลกเครื่องแกงทั้งหมดเข้าด้วยกันให้ละเอียด ตักใส่ถ้วย พักไว้

2. ล้างปลาโอ ควักเหงือกและไส้ออก ล้างอีกครั้งให้สะอาด บั้งทั้งตัวปลาทั้งสองด้าน นำไปย่าง บนเตาถ่านด้วยไฟอ่อนจนสุกและแห้ง แกะเอาแต่เนื้อเป็นชิ้นพอคำ ใส่จาน พักไว้

3. ต้มน้ำในหม้อด้วยไฟกลางจนเดือด ใส่ไตปลาลงต้มสักครู่ ปิดไฟ ยกลงกรองด้วยกระชอน จากนั้นใส่น้ำไตปลาที่ต้มลงในหม้ออีกใบ ตั้งบนไฟกลางพอเดือด ใส่น้ำพริกแกงที่โขลก คนให้ทั่ว
ใส่กะทิ เนื้อปลาย่าง คนให้ท่ว ใส่ส้มแขก และน้ำตาล เคี่ยวสักครู่ ซิมรสให้เค็มนำ
รสเ่้ปรี้ยวอ่อนๆ ใส่ใบมะกรูด และพริกชี้ฟ้า คนให้เข้ากัน ปิดไฟ

4. จัดขนมจีนใฟจาน ตักแกงไตปลาราด หรือตักแกงใส่ถ้วยแยกต่างหาก เสิร์ฟพร้อมกับผักเหนาะต่างๆ
และ ผัก ดอง ผักเหนาะมีดังนี้ ใบบัวบก ผักกระเฉด ถัวงอกมะเขีอเปราะ ยอดกระถิน ผักชีล้อม
สะตอ ลูกเนียง ฯลฯผักดองมี หอมแดง แตงกวา หัวไชโป้หวาน ผักกาดดอง ฯลฯ